ทนแล้ง ต้องการน้ำน้อย
และรายได้หลักของเกษตรกรไทยหลายครัวเรือน แต่ในยุคที่สภาพภูมิอากาศแปรปรวน ภาคการเกษตรไทยต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งคลื่นความร้อน ฝนหลงฤดู ภัยแล้ง น้ำท่วม และการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตผักทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
การปรับตัวด้วยความรู้ เทคโนโลยี และมาตรฐานสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่า จึงเป็นหนทางให้เกษตรกรไทยยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนและโอกาสใหม่ในตลาดโลก
พื้นที่ปลูก 352,830.61
เปอร์เซ็นต์ 31.20%
พื้นที่ปลูก 352,830.61
เปอร์เซ็นต์ 31.20%
ทนแล้ง ต้องการน้ำน้อย
มีน้ำมาก ชอบน้ำ ผักทอดยอด และผักที่สามารถเจริญเติบโตในน้ำ
ชอบอากาศหนาว ส่วนใหญ่เป็นผักกินใบ พืชหัว
คลื่นความร้อนและอุณหภูมิสูงจัด → ทำให้ผลผลิตลดลง คุณภาพด้อยลง
ฝนหลงฤดูและภัยแล้ง →
กระทบการวางแผนเพาะปลูกและผลผลิตได้รับความเสียหาย
น้ำท่วมฉับพลัน → ทำลายแปลงผักในเวลาอันสั้น
ผลผลิตอาจได้รับความเสียหาย
โรคและแมลงศัตรูพืช → ระบาดบ่อยขึ้นและยากต่อการควบคุม
เกษตรกรไม่สามารถคาดการณ์ผลผลิตได้แน่นอน → กระทบต่อรายได้
ปริมาณผักเข้าสู่ตลาดผันผวน →
ส่งผลต่อราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย
คุณภาพผลผลิตลดลง →
กระทบความเชื่อมั่นของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
แต่ความไม่แน่นอนของสภาพอากาศทำให้ผลผลิตผักไทยยังมีความเสี่ยงสูง
เมื่อผลผลิตภายในประเทศไม่สม่ำเสมอ ไทยจึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้าผัก
จากต่างประเทศจำนวนมาก ปี 2567 ไทยนำเข้าพืชผักกว่า 1.12 ล้านตัน
เพื่อแข่งขันได้ในตลาดโลก เกษตรกรต้องไม่เพียงเพิ่มผลผลิต
แต่ต้องรักษามาตรฐานตลอดห่วงโซ่คุณค่าด้วย
อนาคตของการผลิตผักไทยจะไม่ได้วัดกันที่ "ปริมาณ" เพียงอย่างเดียว
แต่จะเน้นไปที่ คุณภาพ ความปลอดภัย ความยั่งยืน
และนวัตกรรม
ที่ตอบโจทย์สังคมยุคใหม่
