สมุนไพรไทยคือหัวใจที่ทำให้อาหารไทยโดดเด่น
ด้วยรสชาติ กลิ่น และสีสันที่เป็นเอกลักษณ์
สมุนไพรคือยาสามัญประจำบ้าน
ที่คนไทยพึ่งพามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สมุนไพรไทยได้ก้าวขึ้นสู่เวทีโลกในฐานะ Soft Power
ที่กำลังเป็นที่จับตามอง
สมุนไพรหลัก คือ
ใช้ผักพื้นบ้าน
ตามฤดูกาลเป็นส่วนประกอบ
ใบชะพลูช่วยบำรุงธาตุ ขับลม
แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ
ช่วยขับเสมหะ
หวานจากเนื้อสัตว์และผักผสมกับ รสเผ็ดฝาด ขมของผักพื้นบ้าน
เครื่องแกงมีส่วน ประกอบของตะไคร้
ใช้ผักพื้นบ้าน
ตามฤดูกาลเป็นส่วนประกอบ
กระชายและพริกไทยช่วย
ขับลม แก้ท้องอืด
หวานจากผักและกุ้งสด ผสมกับรสขม มัน เผ็ดร้อน
เครื่องแกงมีส่วน ประกอบของตะไคร้
ใช้ผักพื้นบ้าน
ตามฤดูกาลเป็นส่วนประกอบ
ใบย่านางในน้ำแกง เพิ่มสี
ลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงตับและไต
เพิ่มกลิ่นและรสชาตมีประโยชน์หลากหลาย
พริกไทยอ่อน เพิ่มเนื้อสัมผัส และรสเผ็ดร้อนพร้อมสรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสระ
ควบคุมความดัน ไปจนถึงช่วยระบบทางเดินอาหารและระบบหายใจ
ขมิ้นชัน ให้สีและกลิ่นที่เป็น เอกลักษณ์และมีสรรพคุณ ช่วยเจริญอาหาร แก้ท้องอืดเฟ้อ ลดอาการจุกเสียด
เป็นเทรนด์ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง สมุนไพรไทยจึงไม่เพียง "เพิ่มรสชาติ" แต่กลายเป็นเรื่องเล่าและประสบการณ์ของแต่ละพื้นถิ่นที่ทำให้ผู้ลิ้มลองประทับใจ
สมุนไพรไทยทำหน้าที่เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ช่วยดูแลสุขภาพบรรเทาอาการเจ็บป่วยและป้องกันโรคต่างๆ มาตั้งแต่โบราณกาล ภูมิปัญญานี้สะท้อนความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของบรรพบุรุษที่มองสมุนไพรเป็นเครื่องมือรักษาสุขภาพทั้งกายและใจ
แม้สมุนไพรจะเป็นยาสามัญประจำบ้าน แต่การใช้ที่ไม่ถูก อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้สมุนไพร
อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีมูลค่าตลาดสูงสุด รองลงมาคือ ยาและสมุนไพร เครื่องมือแพทย์ และเครื่องสำอาง
คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับสินค้าเพื่อสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน จากสารสกัดธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวด้วยสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดผงพร้อมชง (Functional Powder) ที่สะดวกต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน
ปี 2567 มูลค่าตลาดค้าปลีกสมุนไพรโลกสูงถึง
60,589.8
ล้านเหรียญสหรัฐ
จากความโดดเด่นทั้งด้านสรรพคุณและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ทำให้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ถูกจัดเป็นส่วนหนึ่งใน
เพื่อผลักดันสู่ตลาดโลก และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้ประเทศ
และเพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก
การสร้างเอกลักษณ์และมูลค่าเพิ่มของสมุนไพรไทย จึงไม่เพียงแต่พึ่งพาสรรพคุณทางยา
ที่ทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น เช่น
การคุ้มครอง GI ไม่เพียงช่วยรักษาเอกลักษณ์สมุนไพรท้องถิ่น
แต่ยังสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพ เพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
และขยายตลาดเชิงพาณิชย์สู่ระดับสากล
